//ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายตนะ 6 //
**ธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม เป็นธาตุที่มีเกิดอยู่ตามธรรมชาติและเป็นสามัญธาตุที่เป็นพื้นฐานประกอบกันขึ้นเป็นธาตุ
ส่วนอื่น เป็นคน เป็นสัตว์ ภูเขาแม่น้ำท้องฟ้า ท้องทะเล
ซึ่งเมื่อเหล่าสรรพสิ่งตายแตกดับภาวะปัจจุบันแล้ว จึง
สลายคืนสู่ธาตุเดิม คือ ไฟ ลม น้ำ ดิน ตามลำดับลงไป
ตามเดิม***
**ขันธ์ 5 เป็น การประกอบจากธาตุทั้ง 4 ขึ้นมาเป็นองค์ประกอบชีวิตที่ขึ้นเป็นกาย-จิต มีเครื่องประกอบทำงานเป็นเครื่องมือของใจทั้ง 5 ประการคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
---รูป เป็นธาตุ 4 ประชุมกัน เป็นรูปกาย
---เวทนา เป็นเครื่องแสดงอารมณ์ มีอิฏฐารมร์ และอนิฏฐารมณ์ คือ การพอใจและไม่พอใจ และอุเบกขารมณ์ (อารมณ์กลางๆ)
---สัญญา คือ การจำได้หมายรู้ เป็นส่วนสติสัมปชัญญะต่อการเรียนรู้สนอง-สมองปัญญาญาณของคนสัตว์ บุคคล เราเขาเท่านั้น
---+สังขาร คือ ภาวะการปรุงแต่งจิต คำๆเดียวกับสังขารทั้งปวง ซึ่งก็หมายถึงการปรุงแต่งให้เป็นภาวะต่างๆ แม้ร้อน หนาว ก็เป็นการปรุงแต่ง โดยจนถึงสภาวะแห่งกาลเวลา ก็คือ การปรุงแต่ง แต่สภาวะนิพพาน พ้นจากการปรุงแต่งอย่างธรรมสามัญ
---วิญญาณ คือ ภาวะรู้ได้ ถ้ามีแต่เพียงจิต ก็ได้เพียงธาตุรู้ แต่ไม่ได้รับสภาวะอารมณ์ต่างๆได้ วิญญาณจึงเป็นแหล่งเป็นสัญญาณประสาทเชื่อมต่อลงสู่จิตใจ ของบุคคล***
**
**อายตนะ 6 คือ ที่ต่อ ที่รู้ ที่สัมผัสได้ ในร่างกายคนสัตว์ คือ
--- ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็น อายตนะภายใน
--- รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย ธรรมมารมณ์ เป็นอายตนะภายนอก
//** เมื่อสัมผัสถูกต้องแล้วก็ผ่านวิญญาณทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น มาสู่ใจ หาก กำจัดทุกข์ ก็ตัดที่ต้นตอของเหตุ ซึ่งอาจเป็นที่ตั้งสติรู้ทัน ที่ ใจ หรือ อายตนะก่อนเข้าสู่ใจให้ทุกข์ได้ โดยสติปัญญาญาณ ในวิปัสสนา เพราะวิปัสสนาคือ การพิจารณารู้ตามความเป็นจริงในสามัญลักษณะ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จึงเข้าสู้ภาวะแห่งการหยั่งรู้ในทุกระดับสู่การปล่อยวางโดยสิ้น หากไม่ยึดเอาขันธ์ 5 เป็นเครื่องดำเนินในโลก
**เมื่อไม่ผันแปร จึงไม่แปรผัน**
******พระยามุจลินท์****
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น